วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555


ตำนานจอมบึง
เขียนโดย สุรินทร์ เหลือลมัย ที่ปรึกษาสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง                                          
จอมบึงมีนิทานท้องถิ่นเรื่องเดียวที่เล่าสืบกันมาหลายชั่วคน ถึงเรื่องเรือสำเภาจีน ลำหนึ่ง แล่นมาชนยอดเขาลูกหนึ่งจนบิ่นไป  เขาลูกนั้นเรียกว่า เขาบิ่น ต่อมาเพี้ยนเป็น เขาบิน จนทุกวันนี้  สำเภาลำนั้นยังแล่นต่อไปได้ มันเลาะเลียบทิวเขายาวๆ ลูกหนึ่ง แล้วพุ่งเข้าชนหัวเขาจนทะลุเป็นรู  เขาลูกนั้นในเวลาต่อมาเรียกว่า เขาทะลุ  ก่อนเลี้ยวขวาเข้าสู่ท้องทะเลใหญ่ ท้องเรือก็ครูดยอดเขาอีกลูก จนเขานั้นยุบลงตรงกลางสำเภายังคงแล่นต่อไปทางขวา ในที่สุดท้องเรือก็ทะลุ น้ำเข้าเต็มลำ ค่อยๆ จมดิ่ง โผล่ให้เห็นแต่ยอดเสากระโดงเรือแต่นั้นมา

จริงหรือ ที่มีคนเคยเห็นยอดเสากระโดงเรือในทุ่งจอมบึง ?

     นิทานเรื่องสำเภาจีนเป็นจินตนาการที่สอดคล้องกับภูมิประเทศของภูเขาลูกโดด ภูเขาลูกโดดเหล่านั้น ดูไปก็ราวกับว่าเดิมมันเคยเป็นเกาะแก่งมาก่อนจริงๆ  ผู้สูงอายุหลายท่านเคยเห็นเสาไม้แก่นเหลากลมกลึง ท่านเข้าใจว่าเป็นเสากระโดงเรือ บอกว่ามันฝังจมดินเอียงๆ อยู่ ทั้งยืนยันว่าเคยลูบคลำด้วยมือของตัวเอง  ท่านหนึ่งเล่าว่าสมัยเป็นเด็กเคยเอาวัวไปเลี้ยงในทุ่งบึง แล้วชอบไปไต่เสาไม้แก่นเล่น เพื่อนบางคนเอามีดถากไปสุมไฟเผาปลาเผาหอยก็มี จนค่อยๆ บิ่นหายไป  บางท่านยังเล่าว่า เมื่อครั้งหนุ่มสาวเคยไปหาปลาหน้าแล้งกลางทุ่งบึง ขณะที่กั้นดินโคลนวิดน้ำจับปลาบริเวณนั้น ได้พบไม้กระดานเรือเป็นชิ้นส่วนของลำเรือ และไม้พายยาวๆ สำหรับแจว 

เชื่อว่าชาวบ้านกลุ่มลาวเวียงที่มาตั้งรกรากเมื่อประมาณร้อยกว่าปีมาแล้ว น่าจะเป็นผู้ผูกเป็นนิทานเพื่อบอกแหล่งที่มาของเสาไม้แก่นต้นนั้น  ดังนั้น เรื่องเสากระโดงเรือสำเภาฝังจมดินอยู่กลางทุ่ง บริเวณที่เรียกว่ารางเจ๊ก จึงเป็นความสงสัยที่ผู้คนในท้องถิ่นหาคำตอบได้ในนิทานสำเภาจีนนั่นเอง 

แต่น่าคิดว่า ถ้าสำเภาไม่ล่ม มันจะแล่นไปทางไหน อ่านต่อ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น